พื้นฐานของการนวดฝ่าเท้า
คือ การนวด หรือการกระทำที่ฝ่าเท้า เพื่อป้องกัน และรักษาโรคที่เกิดขึ้นในร่างกาย
ผลจากการนวดเท้า
อันดับแรก ต้องตรวจดูตำแหน่งที่มีปมใต้ผิวหนัง บริเวณเท้า เรียกปมนี้ว่า "Crystalline" หรือ "Gritt" อยู่ใต้ผิวหนังลึกลงไป ถ้าอยู่ตำแหน่งตรงใด ก็จะหมายถึง อวัยวะตามแผนผังบนฝ่าเท้านั้น มีปัญหา ซึ่งปมเหล่านี้ เมื่อกดลงไป จะรู้สึกเจ็บมาก แม้จะกดเบาๆ ก็ตาม
การกดเพื่อรักษา ใช้ขอบของนิ้วกดลงไป แล้วหมุนนิ้วตามเข็มนาฬิกา กดลงไปลึกๆ โดยมิทำให้เจ็บ แล้วเน้นจุดที่เจ็บอย่างสั้นๆ แล้วพัก ในการใช้นิ้วกด บางคนใช้กำมือ ให้นิ้วกางยื่นออกมา ใช้ข้อนิ้วกดแทนนิ้วหัวแม่มือ และบางรายใช้ไม้ ทำเป็นแท่งกากะบาด ใช้ปลายมนเรียบกดแทนนิ้ว เป็นเครื่องทุ่นแรง แต่กรณีดังกล่าว ต้องควบคุมน้ำหนักให้ดี อาจทำให้เจ็บมาก และเป็นอันตรายต่อเส้นเอ็นที่เท้าได้
ประโยชน์ของการนวดฝ่าเท้า
การนวดเท้าเป็นการกระตุ้น การทำงานของระบบต่างๆ อย่างไรก็ตาม ไม่สามารถแก้ปัญหาพวกติดเชื้อ พวกผิดปกติของโครงสร้าง การอุดตันของลำไส้ ขาหักอุบัติเหตุ และได้ผลดีในบางกลุ่ม เช่น ท้องผูก หืด เครียด ปัญหาที่กระเพาะปัสสาวะ ปวดศรีษะ โรคไต นิ่วในถุงน้ำดี ไมเกรน หรือแม้แต่พวกไซนัส ปัญหาการอ้างถึงประสิทธิผล ในการรักษาโรคดังกล่าวนี้ เป็นที่ถกเถียงถึงประสิทธิผล ว่าจะเป็นจริงอย่างไร อย่างไรก็ตาม มีผู้พยายาม และอธิบายการทำงาน หรือผลจากการนวดฝ่าเท้านี้
การทำงานหรือผลการนวดฝ่าเท้า
เป็นที่ยอมรับกันว่าอวัยวะในร่างกาย จะแสดงสัมพันธ์ กับบริเวณผิวหนัง ซึ่งมีปลายประสาท จากจุดร่วมเส้นประสาทเดียวกัน เช่น การมีปัญหาที่กระบังลม (Diaphragm) จะแสดงออกที่หัวไหล่ เป็นต้น เป็นที่ยอมรับกันว่า ถ้ากระตุ้นที่ผิวหนัง ส่งผลต่ออวัยวะภายใน ซึ่งมีผลการวิจัยในสัตว์ทดลองมากมาย ที่พิสูจน์ทฤษฎีนี้

|
แผนภูมิแสดงจุดเกี่ยวกับอวัยวะบนฝ่าเท้า
|
|

|
แผนภูมิแสดงจุดเกี่ยวกับอวัยวะบนหลังเท้า
|
การทำงานของการนวดเท้า อยู่บนพื้นฐานหลักการว่า อวัยวะทั้งหมดของร่างกาย แสดงออกสัมพันธ์ กับบริเวณเท้าทั้งหมด ซึ่งอวัยวะส่วนใหญ่ อยู่บริเวณส้นเท้า และกระจายไปสู่ปลายเท้า ตามแผนภูมิบนฝ่าเท้า
จากแผนภูมิแสดงถึง ฝ่าเท้าสัมพันธ์ กับอวัยวะต่างๆ เมื่อกดไปบริเวณดังกล่าว จะเป็นการกระตุ้นอวัยวะต่างๆ ในกรณีนี้คือ ภาวะปกติ สำหรับกรณีที่ผิดปกติแล้ว เกิด "Crystls" ในเท้านั้น มิสามารถอธิบายได้ แม้จะมีการทดลองผ่าศพดู ก็ไม่พบอะไร เชื่อว่าน่าจะเป็นปม ของเนื้อเยื่อ เรียกว่า "Fibrositic nodules" ซึ่งปกติ ก็ไม่สามารถจะผ่าตรวจดูได้

|
แผนภูมิแสดงจุดเกี่ยวกับอวัยวะบนเท้าด้านใน
|
|

|
แผนภูมิแสดงจุดเกี่ยวกับอวัยวะบนเท้าด้านนอก
|
อย่างไรก็ตาม การอธิบายในแผนปัจจุบัน อธิบายได้ยาก เพราะไม่มีการเชื่อมต่อ ของประสาท ระหว่างอวัยวะ กับบริเวณเท้า หรือแม้แต่จะพยายาม อธิบายโดยเส้น "เมอริเดียน" ของจีน ก็ยังอธิบายไม่ได้หมดทุกจุด เพราะบางเส้น ก็มิได้ผ่านไปที่เท้า จึงสรุปว่าการทำงาน ยังหาข้อสรุปไม่ได้ อาจเป็นพลัง หรืออะไรก็ได้
อย่างไรก็ตาม อีกประเด็นหนึ่ง ที่ยังมิได้พิสูจน์ ว่าเป็นไปได้หรือไม่ ที่เซลล์ที่เท้า สามารถหลั่งสารเคมี เช่นเดียวกับอวัยวะต่างๆ ที่มีจุดเริ่มต้นจากเซลล์ บริเวณเดียวกัน เมื่อเป็น Embryo เมื่อตอนแยกแบ่งตัว ส่วนหนึ่งไปเป็นส่วนหัว อีกส่วนไปเป็นส่วนหาง เซลล์ที่มาจากจุดเดียวกัน เมื่อถูกกระตุ้น จะหลั่งสารเดียวกันออกมา มากขึ้น และไปตามระบบไหลเวียน สารเคมีเหล่านั้น อาจมีส่วนทำให้อวัยวะต่างๆ ทำงานได้ดี หรือถูกกระตุ้นไปด้วย ปัจจุบันความเชื่อ เรื่องเซลล์หลั่งสารเคมี นับวันจะมีมากขึ้น เช่น การผ่าตัดสมองทิ้งไปทั้งซีกได้ โดยไม่เกิดอัมพาตแต่อย่างใด โดยเซลล์ดีๆ อีกข้างหนึ่ง ทำหน้าที่หลั่งสารเคมีออกมา กระตุ้นเซลล์ประสาทแทน การมีเซลล์เสียๆ ไม่ปกติ เสียอีกทำให้เป็นอัมพาตได้ ผู้เขียนจึงค่อนข้างเชื่อว่า ปม "Crystal" คือ สารบางอย่าง ที่หลั่งออกมา จากเซลล์อวัยวะภายใน ซึ่งผิดปกติ ป่วยเป็นโรค แล้วสารนั้น มาทำให้เซลล์ บริเวณเท้าเกิด Fibrotic nodule ขึ้น และเจ็บปวด เมื่อถูกกดไปด้วย อย่างไรก็ตาม เป็นการนำการนวดฝ่าเท้ามาใช้ น่าจะเกิดประโยชน์อย่างดี ในกรณีกระตุ้นร่างกาย โดยเป็นการป้องกันโรค หรือส่งเสริมสุขภาพ ส่วนในการรักษานั้น คงต้องศึกษากันต่อไป
การนวดเท้าในแผนไทย
ในทฤษฎีการนวดไทยเรื่องเส้นสิบ มีเส้นที่แล่นไปที่เท้าหลายเส้น ได้แก่
1. เส้นอิทา ปิงคลา สุมนา และกาลธารี แต่จุด และเส้นดังกล่าว บริเวณเท้า เมื่อขัดข้อง ก็เป็นเรื่องที่เกี่ยวข้อง กับเท้าโดยตรง ไม่ได้ไปเกี่ยวพัน กับอวัยวะอื่น เช่น แก้ลมข้อเท้า ร้อนหลังเท้า แก้ตะคริว แก้กล่อน เป็นต้น
2. เส้นสหัสรังษี และทุวารี เป็นเส้นที่ไปที่เท้าด้วย เมื่อขัดข้องจะเกี่ยวข้องกับตาทั้งสองข้าง เช่น แก้ลม เสียวจักษุ แก้จักษุเพื่อกล่อน ลมแทงจักษุ แก้จักษุเพื่ออันฑพฤกษ์ แก้ลมจักษุเพื่อช้ำใน ความเชื่อพื้นบ้านไทย เมื่อเจ็บตา ฝุ่นเข้าตา ให้กลั้นลมหายใจ แล้วใช้น้ำรดหัวแม่เท้า จะหายเคืองตา นับเป็นเส้นที่แสดงความเชื่อมต่อ ระหว่างเท้ากับอวัยวะอื่น ที่ห่างกัน
3. เส้นสิขิณี และสุขุมัง เป็นอีกสองเส้น ที่เกี่ยวกับเรื่องนี้ กล่าวคือ เส้นสิขิณีไปที่เท้า มีผลต่อระบบปัสสาวะ ได้แก่ แก้ลมปัสสาวะดำ และลมปัสสาวะเหลือง ส่วนเส้นสุขุมัง แก้ร้อนเกินกำหนด แก้กระหายน้ำ แก้ลมแสยงขน แก้ลมทำให้เสียว แก้กองลมอติสาร จะเห็นได้ว่า แม้ไม่ระบุอวัยวะชัดเจน แต่ก็มีผลต่อระบบขับถ่าย และระบบอัตโนมัติอื่นๆ ที่มิได้เกี่ยวข้อง กับโรคของเท้าโดยตรง
นับว่าคนไทย มีเรื่องการนวด และการกดจุดบนเท้า ด้วยเช่นกัน มีการกดจุดที่อวัยวะหนึ่ง แล้วไปมีผลต่ออวัยวะ หรือระบบอื่นๆ ที่ห่างออกไป โดยมิสามารถอธิบาย ถึงประสาทที่เกี่ยวข้องกันโดยตรง แบบแพทย์แผนปัจจุบัน การนวดเท้าของไทย ไม่มีแผนที่เกี่ยวข้อง กับอวัยวะอย่างละเอียดแบบจีน แต่เป็นการนวดแบบโดยรวม กระตุ้นทั้งหมดตามแนวเส้นต่างๆ เป็นการกระตุ้นเส้นสาย ให้ลมเดินสะดวก โดยเริ่มที่ฝ่าเท้า หลังเท้า แล้วไปที่ขา เป็นต้น
|